December 03, 2013

Kaewta N. shared an article เส้นทางสายไหมบนถ�..

เส้นทางสายไหมบนถนนนิมมาน


ผมเป็นคนที่เดินทางไปเชียงใหม่บ่อยมาก ถ้าเป็นแต่ก่อนคงอยากหาที่พักแถวถนนช้างคลานใกล้ไนท์บาร์ซ่าร์ มาเดี๋ยวนี้ความเจริญมาย้ายมาอยู่ที่ถนนนิมมานเหมินทร์แล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็จะเลือกที่พักในย่านนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไปไหนมาไหนไกลๆ เว้นแต่ต้องไปทำธุระชานเมือง หรือนอกเมือง เช่นหางดง แม่ริม แม่แจ่ม อะไรประมาณนี้

profile pictureหาที่พักในเชียงใหม่จะว่ายากก็ยาก (สถานที่ถูกใจแต่ราคาอาจไม่ถูกใจโดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว) จะว่าง่ายก็ง่าย (มีที่พักให้เลือกทุกระดับประดับใจ ถ้าเปลี่ยนมาเที่ยวช่วงนอกเทศกาลหรือช่วงวันธรรมดา รับรองว่าหาไม่ยาก)

เมื่อปีที่แล้วผมมีโอกาสกลับไปเชียงใหม่อยู่หลายครั้ง แล้วก็ได้ค้นพบความเก๋ของโรงแรมนึงซึ่งตั้งอยู่บนถนนนิมมาน จากการค้นหาโรงแรมใน Agoda ที่มีโรงแรมให้เลือกประมาณ 500 กว่าๆ Nimman Mai Design Hotel (นิมมาน ไหม ดีไซน์ โฮเต็ล) เป็นโรงแรมเปิดใหม่ ตั้งอยู่ในซอยสุขเกษม เดินออกมาหน้าปากซอยจะเจอร้านกาแฟชื่อดัง Ristr8to โรงแรมส่วนใหญ่จะแบ่งเกรดของห้องพักตามขนาดและความหรูจาก Standard, Superior, Deluxe และ Suite แต่โรงแรมนี้มีมากกว่านั้นเพราะเขาแบ่งตามอารมณ์และรสนิยมการตกแต่งห้องเป็นถึง 7 ธีม ด้วยความสนใจที่มาและแรงบันดาลใจของที่มาในแต่ละห้อง ผมเลยย่องไปเก็บภาพและเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟัง

ยังมีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับการเที่ยว เมืองน่าน ลำปาง และสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแหล่ง

ถ้าต้องการติดตามอ่านบทความอื่นๆ ของผม กรุณาแวะเข้าไปชมได้ที่ www.somchartlee.com บ้านหลังใหม่ของ "ที่นี่มีเรื่องเล่า" ครับ สุนทรียะแห่งการพักผ่อน

Theme แรกเรียกว่า Silk Cocoon (The concept of Cozy, the feeling of metamorphose that occurred before the caterpillar becomes a butterfly) ออกแบบเหมือนรังไหม ทำด้วยไม้ตกแต่งผนังคลุมเตียงนอนซึ่งตั้งอยู่บนพื้น ผมชอบห้องนี้มากที่สุด เพราะมันต้องบิวด์อินรอบเตียง การได้นอนอยู่บนฟูกมันให้ความรู้สึกที่แตกต่างดี การเลือกโคมไฟ และโซฟามันดูเข้ากันดี

Silk Cocoon ห้องนอนดักแด้ (ภาพจากโรงแรม)

Silk Cocoon ห้องนอนดักแด้ (ภาพจากโรงแรม)

Theme ที่สองเรียกว่า Vintage Europe (The concept of Classic, that occurred as timeliness feeling of romance in colonial times) ห้องนี้ออกแบบตกแต่งให้ดูโรแมนติคสไตล์ฝรั่ง ผู้ใหญ่น่าจะชอบแนวนี้นะเพราะดูขรึมดี

Vintage Europe หรูหราโรแมนติค (ภาพจากโรงแรม)

Vintage Europe หรูหราโรแมนติค (ภาพจากโรงแรม)

Theme ที่สามมีชื่อว่า Gold China (The Concept of Emperor of China that occurred as the legend of China) ประมาณบรรลังก์จักรพรรดิ์ จริงๆ แล้วก็มีความโมเดิร์นใส่เข้าไปเยอะ จะมีเก้าอี้และตู้สีแดงที่ช่วยขับความเป็นจีนออกมาได้นิดหน่อย ขาด Prop ที่ทำให้ดูจีนจ๋ากว่านี้

Gold China บรรลังก์จักรพรรดิ์แบบจีนๆ (ภาพจากโรงแรม)

Gold China บรรลังก์จักรพรรดิ์แบบจีนๆ (ภาพจากโรงแรม)

Theme ที่สี่เรียกว่า Jewel Morocco (The concept of Excitement that occurred as the most exotic treasure) ห้องนี้พอแต่งขึ้นมาจริงๆ ผมว่ามันดูสว่างโล่งไปนิดนึง ถ้าทำสีให้ฉูดฉาดกว่านี้ มีภาพแขวนผนังอาจช่วยทำให้ตื่นเต้นเร้าใจมากยิ่งขึ้น

Jewel Morroco สว่างไสว ขาวโพลน ตื่นตาตื่นใจ (ภาพจากโรงแรม)

Jewel Morroco สว่างไสว ขาวโพลน ตื่นตาตื่นใจ (ภาพจากโรงแรม)

Theme ที่ห้าจะออกแนวเซนชื่อว่า Zen Japan (The concept of the land of rising sun, that occurred to create the fastinating way of people, talent, life & tradition) เป็นห้องแนวเซนคือเน้นความเรียบง่ายและนิ่งสงบไม่ฉูดฉาด ห้องสไตล์นี้จะคงความคลาสิกและอยู่ได้นานกว่าห้องสไตล์อื่น

Zen สงบนิ่งสไตล์เซน (ภาพจากโรงแรม)

Zen สงบนิ่งสไตล์เซน (ภาพจากโรงแรม)

Theme ที่หกมีชื่อว่า Tribe Lanna (The concept of Serene, that occurred as magnificent heritage of Chiangmai's way of life) ห้องนี้ก็จะออกสไตล์เหนือหน่อย เพราะมีการใช้ไม้สาน วัสดุและศิลปะของล้านนาเข้ามาประกอบการตกแต่งภายในห้อง แต่ต้องระวังเรื่องมอดและการบำรุงรักษานิดหน่อย

Lanna Style ศิลปะสไตล์ล้านนา (ภาพจากโรงแรม)

Lanna Style ศิลปะสไตล์ล้านนา (ภาพจากโรงแรม)

Theme สุดท้ายคือ Thai Rattanakosin (The concept of Heaven that occurred as Thai murals of Nang Mekkala, a Goddess of Lightning) ห้องนี้แต่งขึ้นมาแล้วยังดูไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ จะมีแค่ฝาผนังที่พยายามตกแต่งให้ดูเหมือนคุ้มเจ้า ถ้าใช้สีไม้ เฟอร์นิเจอร์ และแบบผ้าม่านจะดูลงตัวกว่านี้

Thai Rattanakosin งามแบบไทยโบราณในวรรณคดี (ภาพจากโรงแรม)

Thai Rattanakosin งามแบบไทยโบราณในวรรณคดี (ภาพจากโรงแรม)

คุณค่าที่คุณเลือกได้

โชคดีที่ผมมีโอกาสเข้าพักตั้งแต่โรงแรมเปิดใหม่ๆ ราคาต่อคืนตกประมาณ 1,200-1,500 บาท ตอนนี้เสิร์ชใน Agoda ราคารู้สึกจะขยับขึ้นมาเป็น 2,000-2,500 ต่อคืนแล้ว (มีคนเข้าไปรีวิวเกิน 400 แล้ว คะแนนอยู่ในระดับ 8/10 เข้าไปอ่านรายละเอียดและรีวิวจากคนที่เคยไปพักได้ที่นี่ครับ) ถ้าจะให้ชมโรงแรมนี้ผมคิดว่าเขาตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่า เพราะเทียบกับเงินที่เสียไป กับความรู้สึกแปลกใหม่ในการพักผ่อนอยู่ในธีมห้องที่สวยงาม แถมฟูกและผ้าปูที่นอนยังนุ่มสบายกว่าทุกที่ๆ เคยพักมา, มี iPad ตั้งให้ใช้บริการที่ Lobby หรือจะขอรหัส wifi ไปใช้ที่ห้องพักก็ได้ไม่คิดเงิน, แหล่งที่ตั้งก็สุดยอดมาก เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกดี แต่สิ่งที่ยังต้องปรับปรุงคือ มาตรฐานการบริการที่สามารถพัฒนาให้ดูสากลขึ้นได้อีกตั้งแต่พนักงานต้อนรับ พนักงานในห้องอาหารและแม่บ้าน, ห้องนอนสวยแต่ห้องน้ำและข้าวของเครื่องใช้ในห้องน้ำยังดูดร็อปไปนิดนึง, ส่วนอาหารเช้าที่โรงแรมก็ดูธรรมดาเกินไป

จากโรงแรมที่เคยไปพักในย่านเดียวกัน ผมขอแนะนำเพิ่มอีก 2 โรงแรม

  • At pingnakorn Hotel (โรงแรมบ้านพิงค์นคร) เป็นโรงแรมที่ตอบโจทย์เรื่องความสะอาด ราคา ไม่เน้นสิ่งอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะอาหารเช้าที่กิ๊บเก๋กว่าใคร อร่อยมาก คอนเฟิร์ม
  • Kantary Hills (โรงแรมแคนทารี ฮิลล์) เป็นโรงแรมแนว Executive Apartment ตอบโจทย์เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ในห้องนอนมีทั้งครัว เครื่องซักผ้า และไมโครเวฟ มีสระว่ายน้ำ ยิม ซาวน่า เลาน์จ ส่วนอาหารเช้าก็ครบเซ็ตมาก ที่ต่างจากที่อื่นคือเขามีเมนูอาหารญี่ปุ่นด้วย อีกหนึ่งข้อดีคือมันอยู่ใกล้ Warm Up มากๆ
ถ้าต้องการติดตามอ่านบทความอื่นๆ ของผม กรุณาแวะเข้าไปชมได้ที่ www.somchartlee.com บ้านหลังใหม่ของ "ที่นี่มีเรื่องเล่า" ครับ บทความน่าสนใจ

มาเชียงใหม่ทั้งที ต้องกิน เที่ยวให้ครบสูตร ผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับแหล่งเที่ยวและกินรอบๆ เชียงใหม่ สามารถตามไปอ่านย้อนหลังได้เลยครับ



To see the article visit http://www.feedspot.com/article/FUHKsGUb6+sb4uQ=
You have received this email because your friend has shared an article with you.
Click here to Unsubscribe if you wish not to receive emails from us. Feedspot.com, 303 Cape Court, Mill Valley, CA 94941

No comments: