Siamrath |
รวบรวมกลุ่มธุรกิจต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้ชื่อ ‘ บัดดี้กรุ๊ป’ ซึ่งแบ่งออกเป็นการประกอบธุรกิจสองกลุ่มใหญ่ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ภายได้ บัดดี้กรุ๊ป โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท และธุรกิจผับ บาร์ และร้านอาหาร ภายใต้ บัดดี้กรุ๊ป ผับ แอนด์ เรสเตอรองท์
นายสง่า เรืองวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบัดดี้ กรุ๊ป กล่าวว่า ธุรกิจของบัดดี้กรุ๊ป เริ่มจากธุรกิจผับ บาร์ บนถนนข้าวสาร โดยในระยะแรกของการดำเนินธุรกิจได้เน้นกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยว ต่อมากลุ่มนักท่องเที่ยวมีจำนวนลดน้อยลง จึงมีการขยายไปยังกลุ่มคนไทย ภายหลังจึงมีการขยายธุรกิจและเติบโตมาเป็นธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจโรงแรม
ในปัจจุบันบัดดี้ กรุ๊ปได้มีการพัฒนาและการรวบรวมกลุ่มธุรกิจต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้ชื่อ ‘ บัดดี้กรุ๊ป’ ซึ่งแบ่งออกเป็นการประกอบธุรกิจสองกลุ่มใหญ่ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ภายได้ บัดดี้กรุ๊ป โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท และธุรกิจผับ บาร์ และร้านอาหาร ภายใต้ บัดดี้กรุ๊ป ผับ แอนด์ เรสเตอรองท์ โดยมีแผนการบริหารธุรกิจ บัดดี้กรุ๊ป ด้วยการตั้งเป้าสัดส่วนของรายได้ในไว้ที่ 50% สำหรับธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท และอีก 50% สำหรับธุรกิจผับ บาร์ และร้านอาหาร รวมถึงธุรกิจอื่นๆ เช่น บริการนวดและสปา บริษัททัวร์ ร้านขายเสื้อผ้า และร้านตัดเสื้อ เป็นต้น จากเดิมทำได้เพียง 40 % และ 60 %ตามลำดับ โดยในอนาคตคาดว่าน่าจะทำได้ถึง 70 % ในธุรกิจโรงแรม และรีสอร์ท ส่วนธุรกิจที่เหลือประมาณ 30 %
ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท บัดดี้กรุ๊ปชูคอนเซ็ปต์สไตล์ บูติกโฮเต็ล ในลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันทั้งหมด 6 แห่ง ทั้งกรุงเทพ นนทบุรี และเกาะสมุย ซึ่งได้แก่ โรงแรมบัดดี้ลอดจ์ โรงแรมโฮเต็ลเดม็อค โรงแรมบัดดี้โอเรียนเต็ล สมุยบีช รีสอร์ท และโรงแรมบ้านหินทราย รีสอร์ทแอนด์สปา รวมไปถึงโรงแรมบัดดี้โอเรียนเต็ล ริเวอร์ไซด์ ปากเกร็ด และเกสเฮ้าส์ มาโคโปโล ถนนข้าวสาร ที่จะเปิดให้บริการในปี 2554
ขณะที่ธุรกิจผับ บาร์ และร้านอาหาร บัดดี้กรุ๊ป มีผับ บาร์ และคาเฟ่บนถนนข้าวสาร 7 แห่ง ได้แก่ ร้านเดอะแฟบูลัส มูลิแกนส์ไอริชผับ บริคบาร์ มอลลี่บาร์ ทริปเปิลไนน์เวสท์ ซินนามอนบาร์ และเดอะคลับ รวมทั้งร้านอาหารอีก 5 แห่ง อยู่ในละแวกถนนข้าวสารและริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ ร้านอาหารกินลมชมสะพาน ร้านอาหารต้มยำกุ้ง ร้านอาหารสองฝั่งคลองรีสอร์ทแอนด์เรสเตอรองท์ ร้านอาหารไซด์วอล์คคาเฟ่ ราชดำเนิน และเรือสองฝั่งคลองดินเนอร์หลุยส์ โดยธุรกิจผับ บาร์ และร้านอาหาร จะถูกตกแต่งด้วยจุดเด่นและคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันออกไป
โดย นายสง่า กล่าวว่า ในการดำเนินธุรกิจในเครือได้วางกลยุทธ์แบบแยกส่วน โดยธุรกิจโรงแรม และรีสอร์ท จะมุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ธุรกิจผับบาร์ และร้านอาหาร จะเน้นไปในเรื่องของการให้บริการที่ประทับใจ เนื่องจากการบริการที่ดี และประทับใจ เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้นักท่องเที่ยวหรือผู้บริโภคหันกลับมาใช้บริการอีกครั้ง ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มยอดขายได้ดีในอนาคต
อย่างไรก็ตามในปี 2554 นี้ธุรกิจโรงแรมของบัดดี้กรุ๊ปได้มีการวางแผนและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์จากเศรษฐกิจโลกที่ทรุดตัวลงอีกครั้ง โดยได้เริ่มปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการเจาะกลุ่มตลาดคนไทยมากขึ้นโดยมีสัดส่วนเป็น 50% และที่เหลือ 50%เป็นชาวต่างชาติ จากเดิมในเวลานี้ที่ยังมีสัดส่วนชาวต่างชาติ 80 % คนไทย 20%
No comments:
Post a Comment