November 03, 2012

Treadsy ชวนคุณผู้หญิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเก่าเป็นเงิน

 
 

Sent to you by nunok via Google Reader:

 
 

via thumbsup by thumbsupteam on 10/25/12


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ใส่เสื้อผ้าเพียงแค่ 20% ของที่มีอยู่เท่านั้น ใครที่เสียดายเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่ Tradesy จะเสนอทางออกที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเก่ากลับเป็นเงินได้โดยที่คุณไม่ต้องไปเปิดร้านขายเอง

ถึงแม้จะใช้เสื้อผ้าที่มีอยู่ไม่ถึง 20% แต่คุณผู้หญิงก็ยังใช้จ่ายไปกับเครื่องแต่งกายถึงปีละประมาณ 6,000 เหรียญต่อปี เพราะเงินจำนวนไม่น้อยที่เสียไปกับเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้นี้เองที่ทำให้บริการอาสาช่วยคุณผู้หญิงขายเสื้อผ้าที่ไม่ใช้เกิดขึ้นมากมายเป็นดอกเห็ด อย่าง Threadflip หรือ Poshmark และ Tradesy ก็เป็นหนึ่งในบริการที่น่าสนใจที่เราจะพูดถึงวันนี้

เว็บไซต์ Tradesy ก่อตั้งโดย Tracy DiNunzio ที่เคยเปิดตัวบริการคล้ายกันที่ชื่อว่า RecycledBride ซึ่งเน้นไปที่ชุดแต่งงาน ชุดสูท เครื่องประดับ และอีกหลากหลายที่เกี่ยวข้องกับงานแต่งงาน โดย Tradesy ประกาศว่าได้เพิ่มเงินทุนขึ้นอีก 1.5 ล้านเหรียญ โดยเป็นการร่วมทุนกันระหว่าง Rincon Venture Partners, 500 Startups, Dany Levy (ผู้ก่อตั้ง DailyCandy), Daher Capital, Bee Partners, Double M Capital และ Launchpad LA

Tradesy จะเป็นคนกลางระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย โดยผู้ขายสามารถใส่รายการของที่ต้องการขายบนเว็บไซต์หรือแอพฯ บนมือถือ และยังใส่รูปหรือวิดีโอได้ จากนั้นเว็บไซต์จะช่วยคุณคิดราคาให้ ด้วยระบบที่จะเอาความต้องการของผู้ซื้อ, ยี่ห้อ หรือความนิยมในตอนนั้นมาเป็นตัวแปร

เมื่อของที่ลงไว้ขายได้ Tradesy จะช่วยจัดการเรื่องธุรกรรมและการจัดส่งให้ รวมทั้งการรับคืนสินค้าแทนผู้ขายด้วย โดย Tradesy จะส่งชุดอุปกรณ์สำหรับจัดส่งสินค้าไปให้ผู้ขายถึงหน้าบ้าน เมื่อผู้ขายจัดส่งสินค้าเรียบร้อย และมีหมายเลขพัสดุที่ถูกต้อง เขาก็จะได้รับเงินทันที ด้วยระบบฟีดแบ็คคล้ายกับ ebay ที่ให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ให้คะแนนผู้ขายได้ ผู้ขายที่ไม่จัดส่งสินค้าจะถูกแบนจากเว็บไซต์ และเงินค่าสินค้าก็จะคืนให้กับผู้ซื้อเต็มจำนวน

ผู้ใช้สามารถ "follow" ผู้ใช้คนอื่นที่มีขนาดตัวและสไตล์เหมือนกับตัวเองได้ และเว็บไซต์จะเตือนเมื่อสินค้าที่อยู่ในรายการที่สนใจลดราคาลง

ธุรกิจรูปแบบนี้เริ่มมีขึ้นบ้างแล้วในบ้านเรา แต่ยังไม่มีบริการไหนที่เน้นธุรกิจเฉพาะทางผู้หญิงเช่นนี้ Startup หน้าใหม่ที่สนใจน่าจะลองศึกษากันดูบ้าง เผื่อจะเป็นช่องทางเติบโตที่ยั่งยืนได้ในอนาคต

ที่มา : Techcrunch


 
 

Things you can do from here:

 
 

No comments: